หนังสือในดวงใจ สาระสาส์น 2543

คอลัมน์ "หนังสือในดวงใจ 'ปราย พันแสง"
..............
Travel
ของไมเคิล ไครซ์ตัน
เป็นบันทึกไครซ์ตันช่วงเริ่มต้นอาชีพนักเขียนแล้วและช่วงที่เขาเดินทางท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่าง ๆ ของโลก เช่น นิวกีนี ปากีสถาน ฮ่องกงและอีกหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย แต่เขาไม่ประทับใจเมืองไทยเท่าไหร่ ที่ชอบคือ ถึงเป็นบันทึกส่วนตัวแต่เขาไม่ได้เปิดเผยตัวเขาทั้งหมด ถ้าเกี่ยวพันเขาถึงจะเล่าเรื่องครอบครัวหรือเรื่องชีวิตส่วนตัวช่วงนั้น ส่วนที่ไม่เกี่ยวก็ไม่เล่า เวลาอ่านเราต้องปะติดปะต่อเอาเอง ตรงนี้ดีนะ แสดงว่าเขาไม่ใช่พวกขี้โม้ที่บ้าความสำเร็จจนน้ำลายฟูมปาก เราชอบนักเขียนแบบนี้ คือเปิดเผยนิด ปกปิดหน่อย ๆ มันมีเสน่ห์น่าติดตามดีและลึก ๆ แล้ว เราจะรู้สึกว่าเขาเป็นพวกใจนักเลงที่มีด้านเซนสิทีฟอยู่ด้วยแต่ไม่ใช่พวกขี้อ้อนอ่อนไหว ลม ๆ แล้ง ๆ
...............
ฤทธิ์มีดสั้น
ดูหนังเรื่อง The Last Seduction เห็นบทบาทของลินดา ฟิโอเรนติโนในหนังเรื่องนี้แล้วคิดถึงลิ่มเซียวยี้ในเรื่องฤทธิ์มีดสั้นที่สุด แต่ใน The Last Seduction เป็นลิ่มเซียวยี้ที่วิวัฒนาการตัวเองสำเร็จเรียบร้อย เลยไม่ต้องเจอชะตากรรมทุเรศแบบในฤทธิ์มีดสั้น ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นการจนมุมของโกวเล้งด้วย เพราะใส่สีสันขนาดนั้นแล้ว คงไม่รู้จะจบยังไงจึงจะสะอาดถูกหลักอนามัย พอผิดหวังจากอาฮุยเลยให้หายวับไปจากหน้ากระดาษเลย อีกสี่ห้าบรรทัดต่อมาปรากฏว่ากลายเป็นนางคณิกาไปเสียแล้ว แถมนอนกับผู้ชายวันละสิบคนโดยไม่เอาเงิน โอโห เป็นจินตนาการที่ผู้ชายมาก
.................
The Enchanted Desna
ของ อเล็กซานเดอร์ ดอฟเชนโกอเล็กซานเดอร์
โก เป็นผู้กำกับหนังและนักเขียนยูเครน ไปเจอหนังสือฉบับแปลเป็นไทย(คะนึงหา)ของคุณผาติ เผ่าไท แสดงว่าคนแปลเด็ดมากจริง ๆ ที่เลือกเรื่องนี้มาแปลให้อ่านกัน เป็นหนังสือกึ่งอัตชีวประวัติของอเล็กซานเดอร์ ดอฟเชนโกเอง ส่วนที่ประทับใจเป็นอารมณ์ขันเศร้า ๆ แสบ ๆ อย่างตอนที่เขาเล่าเรื่องย่าซึ่งเป็นคนแก่ปากจัด เขาก็บอกว่า ย่าของเขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้สามวันโดยไม่ต้องกินอะไรเลย แต่ถ้าไม่ได้ด่าอะไรเลย ย่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้แค่วันเดียวเท่านั้นหรือถ้าจะพูดถึงความยากจนของยูเครน เขาก็จะบอกว่าคนบ้านเขายิงปืนแม่นเกือบทุกคน เพราะต้องยิงนกเป็ดน้ำมาเป็นอาหาร ยิ่งจนก็ยิ่งต้องยิงปืนแม่นเพื่อจะไม่ต้องเสียลูกกระสุนเปล่า ๆ
................
"A life less ordinary"
ของ จอห์น ฮอดจ์
ไม่ใช่หนังสือดี แต่ไอเดียมันน่ารักดี เพราะมันเป็นผลผลิตของ pop culture ที่ชัดเจนดี แล้วบังเอิญไปรู้เบื้องหลังมานิดหน่อย คือ จอห์น ฮอดจ์จริง ๆ แล้วเขาเป็นแพทย์แต่เข้าใจชีวิตพังก์มาก เขาเพิ่งแต่งงานกับคนที่ดีไซน์เสื้อผ้าให้หนังเรื่อง Trainspotting คงทำให้เขาทึ่งในเรื่องบุพเพสันนิวาสหรือพรหมลิขิตอะไรทำนองนี้อยู่ เลยเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา ไอเดียมันมีอยู่ว่ากว่าที่คนสองคนจะมารักกัน พระเจ้าต้องทำงานหนักมาก ต้องลงทุนสร้างสถานการณ์ให้มาเจอกัน ต้องสร้างอุปสรรคขึ้นมาเพื่อจะได้ช่วยกันแก้ จะได้รักกันมากยิ่งขึ้น คนไม่ต้องทำอะไรมากมาย แค่ต้องรักกันให้ได้แค่นั้นแหละ แต่ยากชิบเป๋ง ทำไมทำไม่ได้สักที เออ เข้าใจคิดดี แต่เป็นหนังแล้วไม่ค่อยสนุก อย่างตอนที่นางฟ้าโดนพระเอกต่อยหน้า อ่านหนังสือตะลึงมากว่าคิดได้ไง แต่พอเห็นหนังแล้วกลับรู้สึกเฉย ๆ
...............
วิจารณ์หนังทัศนะใหม่
ของ อาจารย์กาญจนา แก้วเทพ
อันที่จริงควรจะบอกว่าอาจารย์กาญจนาเป็นแม่คนที่สองผู้ให้กำเนิดทางปัญญาคงจะถูกกว่า เพราะหนังสือของอาจารย์หลายเล่มเป็นหนังสือที่ต้องหยิบมาอ่านเรื่อย ๆ มีอิทธิพลต่อความคิดอ่านของเรามาก แต่เล่มนี้พิเศษหน่อยนึงคือ เราคิดว่าตัวเองไม่ใช่เฟมินิสต์ แต่สามารถอ่านงานวิจารณ์ภาพยนตร์จากมุมมองนักสิทธิสตรีอย่างอาจารย์ได้อย่างสนุกสนาน และพูดได้ว่า อาจารย์น่าจะเป็นนักวิจารณ์ไทยคนแรก ที่ใช้มุมมองของเฟมินิสต์เข้าไปศึกษาภาพยนตร์อย่างจริงจังและปากจัดด้วย เราคิดว่านี่คืออาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์ ภาคที่เป็นผู้หญิง
.................
Flower for Mrs.Harris
ของ พอล กาลลิโค
ดูละครเวทีมาก่อน รู้สึกจะเป็นกลุ่มของนักศึกษาธรรมศาสตร์ทำ ไปแสดงที่เอ.ยู.เอ เข้าไปดูแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลย เพราะเพื่อนพาไป ปรากฏว่า นั่ง ๆ ดูไปแล้วน้ำตาไหลไม่รู้ตัว ละครเลิกเลยไปร้านหนังสือกัน ก็ได้หนังสือมาอ่าน ปรากฏว่ายิ่งอ่านยิ่งประทับใจ เขาพูดถึงเรื่องความใฝ่ฝันและความปรารถนาของคนเราได้ชัดเจนและใกล้ชิดกับเราดี ทำให้เราสัมผัสได้ ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่สิ่งที่เราสัมผัสได้ง่าย ๆ
...............
เมฆสูงและร่มไม้
ของ ยังดี วจีจันทร์
ไม่ค่อยชอบงานสั่งสอนศีลธรรม แต่หนังสือรวมบทกวีของยังดีเล่มนี้เป็นขอยกเว้น รู้สึกว่าเขาไม่ใช่สักแต่ประดิษฐ์สำนวน ชอบที่เขาใช้คำสั้น ๆ แต่หนัก อ่านแล้วเป๊ะ เป๊ะ น็อคเราได้ทุกคำ เข้าใจง่าย ไม่มีสัมผัส แต่เขียนออกมามีเสียงไพเราะมาก มีจังหวะแบบบทกวีจีน บางบทก็อารมณ์จิ๊กโก๋นิด ๆ มีบทหนึ่งจำฝังใจตั้งแต่อ่านครั้งแรก เขาบอกว่าในแง่ของส้นตีน คนขาเดียวยืนน้อยกว่าคนสองขา แต่ในแง่ของหัวใจ คนขาเดียวบอกว่า ถ้าต้องเสียขาที่เหลือไปเขาก็จะบิน โอ้โห ส้นตีนกับหัวใจเนี่ยนะ เหมือนเจออัพเปอร์คัทสอยคางน็อคเห็นดาวเลย
..............
พฤกษนิยาย
ของ ส.พลายน้อย
จริงหนังสือชุดนี้มีสี่เล่ม มีสัตวนิยาย เทวนิยาย พฤษนิยายและอมนุษยนิยาย ซึ่งเล่มนี้ยังหาไม่ได้ แต่ทั้งหมดนี้ชอบพฤกษนิยายที่สุดเพราะชอบประวัติดอกไม้ต้นไม้ อย่างหนังสือกลุ่มพฤกษศาสตร์ที่พิมพ์สวย ๆ ขายกันทุกวันนี้ก็ซื้อสะสมไว้หลายเล่ม อย่างของสำนักพิมพ์แพรวพวก บัว ไม้ดอก ไม้ประดับอะไรพวกนี้ ทำสวยมาก ดอกไม้ที่เราชอบ ๆ ก็ซื้อเก็บ ภาพสวย มีข้อมูลทางพฤกษศาสตร์ครบ แต่อ่านแล้วรู้สึกว่ายังขาดอะไรบางอย่าง มีพฤกษนิยายอยู่ด้วยอีกเล่มจึงค่อยสบายใจหน่อย
..............
เหี้ย ห่า และสารพัดสัตว์
ของ ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล
เป็นเชื้อพระวงศ์ที่ทรงมันส์มาก ท่านบอกว่าเขียนเรื่องพวกนี้ขึ้นมาในวันที่รู้สึกเหี้ยที่สุดในชีวิต พวกสัตว์ในเรื่องนี้ชื่อเพราะทุกตัวเลย โดยเฉพาะชื่อบรรดาเหี้ยทั้งหลาย เป็นหนังสือที่มอบให้คนที่เรารักก็สนุกดี เอามุข ส่วนคนที่เราไม่ชอบ เราก็สามารถมอบให้เขาได้เหมือนกัน เพราะชื่อของสัตว์บางตัวในเล่มนี้อาจจะตรงกับชื่อของคนที่เราตั้งใจมอบให้ด้วย