ยอมรับตรงๆว่าครั้งแรกที่หยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาเพราะชื่อของนักเขียน…’ปราย พันแสง ครั้นพอพลิกอ่านปกหลัง...ตัวอักษรที่เรียงรายอยู่ด้านท้ายสุดของปก ทว่าใหญ่โตโดดเด่นที่สุด “บางมนุษย์ไม่เกรงกลัวสิ่งใด และไม่อยากเป็นผู้ชนะอีกต่อไปแล้ว”
.......
จริงเหรอ...มันชวนให้ไม่อยากเชื่อ...ก็มีใครบ้างไม่อยากเป็นผู้ชนะ
........
ไล่สายตาขึ้นไปเรื่อยๆ(เป็นวิธีการอ่านที่ผิดปกติสักหน่อย) เป็นข้อความที่คัดมาจากในเนื้อเรื่องตามที่เคยเห็นในปกหลังของหนังสือทั่วๆไป “ในบางนาทีที่โลกเอียงให้เราใกล้กัน ในฉับพลันที่เรามีกัน ก็ได้แต่ฉงนฉงายว่าก่อนหน้านี้ เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้มาโดยไม่มีกันได้อย่างไร”
..............
ในนาทีแรกแห่งความรักของคุณ(ไม่ว่าจะรักครั้งไหนก็ตาม)...เคยรู้สึกอย่างนี้บ้างไหม ถัดขึ้นไปอีกนิดในหัวข้อ...รักแรก... “เวลาที่เราเริ่มรู้จักเปรียบเทียบนั้น มันหมายถึงเรากำลังมีความรัก” จริงเร้อ...ถามตัวเองด้วยเสียงสูงๆอยู่ในใจ จนถึงตอนนี้อดคิดไม่ได้ว่า ตัวเองทำหน้านิ่วคิ้วขมวดกับปกหลังของหนังสือนานเพียงใด และมีใครในร้านหนังสือแอบคิดไหมว่า...ท่าทางยัยนี่จะบ้า...
...............
เพียงปกหลังก็พอจะเดาได้ว่าเนื้อเรื่องในหนังสือเกี่ยวกับอะไร...ถ้าเดายังไม่ได้หรือบางคนบอกไม่อยากเดาเพราะไม่ใช่ข้อสอบ(ซะงั้น คำพูดนี้ไม่ได้คิดเองแต่มีคนอ่านนิยายคนหนึ่งบอกไว้ ว่าเธอไม่อยากเดาตอนจบเลยว่าใครคือพระเอกเพราะนี่ไม่ใช่ข้อสอบ อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเป็นข้อสอบคงตั้งใจเดาแบบสุดๆ เลยสิ แต่ตอนเดาคงลำบากใจไม่น้อย คุณว่าจริงไหม)
.........
บันทึกการเดินทาง ระหว่างความรัก ดอกไม้ และไกลห่าง นั่นคือเรื่องราวในหนังสือที่โปรยไว้หน้าปกขาว-ดำ และตัวอักษรสีฟ้าที่อ่านได้ว่า...มนุษย์ดอกไม้พันห้าร้อยปี...ชื่อหนังสือ หากได้เคยอ่านหนังสือของ ’ปราย พันแสงมาบ้างแล้ว อาจจะเคยรู้สึกหวานชื่นกับตัวหนังสือของเธอ เคลิบเคลิ้มเหมือนลูกโป่งที่ลอยขึ้นไปในอากาศ แล้วจู่ๆตัวอักษรของเธอก็เปรียบเสมือนเข็มเล่มเล็กที่ทิ่มแทงจนลูกโป่งดิ่งลงสู่พื้น อาจจะดูเป็นการเปรียบเทียบที่ดูเว่อร์ไป แต่ความรู้สึกของคนอ่านแต่ละคนไม่เหมือนกัน และแม้แต่หนังสือเล่มเดียวกัน คนอ่านคนเดียวกัน ต่างกันเพียงช่วงเวลาก็ยังรู้สึกได้ต่างไป
.............
เรื่องแรก...น้ำตามิใช่ความโศกเศร้าที่แท้จริง...คุณจะซึ้งกับความรักของชายแก่ที่มีต่อเด็กชายคนหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นหลาน แล้วคุณก็ต้องเศร้าสลดผ่านความทรงจำของผู้หญิงคนหนึ่งเมื่อเธอคิดถึงชายแก่ในชีวิตของเธอ... “นานเท่าไหร่แล้วที่เธอไม่เคยได้คิดถึงชายคนนี้ กาลเวลาช่างโหดร้าย ถ้าใครอันเป็นที่รักยิ่งตายจากไป แล้วเราก็ลืมเขาได้จนหมดสิ้น” อ่านแล้วคิดไม่ตกว่าใครจะเศร้ากว่ากันระหว่างคนที่อยู่กับคนที่ตาย(ถ้าคนตายไปแล้วยังรู้สึกได้) หรือตอนที่ปู่ของผู้หญิงในเรื่องตาย ไม่มีใครในครอบครัวร้องไห้เลยสักคนเพราะได้ทำใจอยู่หลายปีในช่วงที่ปู่ป่วย แล้วการจากไปของปู่ก็สอนเธอให้รู้ว่า “ความโศกเศร้าเดินทางเข้ามาสู่ชีวิตคนเราได้หลายรูปแบบและน้ำตาไม่ใช่ความโศกเศร้าที่แท้จริง”
...............
มาอีกเรื่องในหนังสือเล่มนี้....เหลือง เหลือง สว่าง กระจ่าง....คุณว่าเธอกำลังเขียนถึงอะไร... คุณรู้จักดอกจันทร์กระจ่างฟ้าไหมคะ นั่นล่ะ...คือสิ่งที่เธอเขียนถึง ดอกไม้สีเหลืองอร่าม ใบสีเขียวเข้มกลมมนที่มาแต้มแต่งสวนของเธอให้มีชีวิตชีวา หากเธอก็ยังไม่ลืมว่าเธอมีสวนดอกไม้ในฝัน ดอกลั่นทมสีขาวข้างเรือนไม้โบราณ...เธอยังบอกอีกว่า...
...............
มาอีกเรื่องในหนังสือเล่มนี้....เหลือง เหลือง สว่าง กระจ่าง....คุณว่าเธอกำลังเขียนถึงอะไร... คุณรู้จักดอกจันทร์กระจ่างฟ้าไหมคะ นั่นล่ะ...คือสิ่งที่เธอเขียนถึง ดอกไม้สีเหลืองอร่าม ใบสีเขียวเข้มกลมมนที่มาแต้มแต่งสวนของเธอให้มีชีวิตชีวา หากเธอก็ยังไม่ลืมว่าเธอมีสวนดอกไม้ในฝัน ดอกลั่นทมสีขาวข้างเรือนไม้โบราณ...เธอยังบอกอีกว่า...
........
"ดอกไม้ขาวอาจจะเป็นเพียงความฝัน แต่เราก็รักมันสุดใจ ไม่ว่าความจริงจะเป็นอย่างไร แต่ความฝันก็ยังงดงามอยู่เสมอ-หรือมิจริง” อ่านแล้วคุณอาจจะเผลอพยักหน้า พึมพำตอบคำถามเธอว่า...จริง...ก็เป็นได้
.........
“ขี้มือบางคนมีค่า แต่บางคนนะ อย่าว่าแต่ขี้มือเลย แม้แต่หัวใจยังน่าชัง”...โอ...ช่างเจ็บปวดดีแท้ เธอเขียนถึงการวาดรูป ลังเลว่าจะเอาขี้มือที่เปื้อนสีไปถูๆในภาพอย่างที่เห็นครูทำดีไหม แล้วเธอยังบอกอีกว่า การวาดภาพก็เหมือนแปลหนังสือ เขียนหนังสือ เติมอยู่นั่น แก้อยู่เรื่อย
........
“มืออาชีพบรรจงปั้นเพื่อให้ดูไม่ตั้งใจ มือใหม่ปั้นแล้วปั้นอีกเพื่อให้รู้ว่าบรรจงปั้น”
เอากับเธอสิ!
ผู้หญิงที่ชื่อ’ปราย พันแสง
........
หน้ากาก...ได้ยินคำนี้แล้วนึกถึงอะไร ’ปราย พันแสง อธิบายถึงสามัญชนและอภิชาติชน เธอบอกว่า สามัญชนจะมีความรักต่อทุกสิ่งที่น่ารัก แต่อภิชาติชนจะมีความรักให้กับทุกสิ่งแม้ว่าจะน่าเกลียดเพียงใด แล้วก็สรุปว่า...การเป็นสามัญชนที่มีอภิชาติหัวใจเป็นเรื่องท้าทายไม่น้อยเพราะเราต้องเริ่มต้นด้วยการหัดพูดจาสุภาพอ่อนหวานกับคนที่น่าเกลียดๆ
..........
เธอยังทิ้งท้ายด้วย บทกวีของไบรอัน แพทเทน ที่อาจเสียดแทงก้อนเนื้อหัวใจของใครหลายคนว่า “คนเราควรต้องมีหน้ากากอันที่ใช่หรือหน้ากากแท้ติดตัวสักอัน อันที่เป็นของคุณจริงๆเป็นหน้ากากที่ไม่มีใครอื่นมาสวมแทนได้”
..............
เคยมีคนบอกไว้ว่า อยากรู้ว่าคนๆหนึ่งเป็นยังไงให้ดูหนังสือที่เขาอ่าน(อาจใช้ไม่ได้กับทุกคน...เพราะบางคนอ่านหนังสือสะเปะสะปะ ไม่มีหมวดหมู่ อ่านตั้งแต่การ์ตูนโป๊ นิยายรัก ฆาตกรรม เรื่องตลก เรื่องหนักๆสะท้อนสังคม ปรัชญาจนกระทั่งธรรมะ คงบอกไม่ได้ว่าเขาเป็นคนยังไง) อยากรู้ว่านักแต่งเพลงเป็นยังไงให้ฟังเพลงที่เขาแต่ง อยากรู้ว่านักเขียนเป็นยังไงให้อ่านหนังสือที่เขาเขียน
........
และหากคุณอยากรู้จัก ’ปราย พันแสง
ก็ต้องอ่านหนังสือที่ ’ปราย พันแสง เขียน
แล้วอย่าตกใจเมื่อคุณจะคิดไปว่า ’ปราย พันแสง คงเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ท่าทางเกเร แต่น่ารัก บางครั้งหวานสุดๆ บางทีเปรี้ยวจนเข็ดฟัน เหมือนตัวอักษรที่เธอเรียงร้อยออกมาเป็นหนังสือเล่มนี้...มนุษย์ดอกไม้พันห้าร้อยปี
ชื่อหนังสือ....มนุษย์ดอกไม้พันห้าร้อยปี
ผู้เขียน...........’ปราย พันแสง
~*~ไม่ใช่นักวิจารณ์หนังสือมืออาชีพ ก็แค่อยากเล่าถึงหนังสือที่อ่าน..ก็เพียงแค่นั้น...เท่านั้นจริงๆ ~*~
เรื่อง จากกระทู้แนะนำหนังสือของคุณบ้านเลขที่ 33
~*~ไม่ใช่นักวิจารณ์หนังสือมืออาชีพ ก็แค่อยากเล่าถึงหนังสือที่อ่าน..ก็เพียงแค่นั้น...เท่านั้นจริงๆ ~*~
เรื่อง จากกระทู้แนะนำหนังสือของคุณบ้านเลขที่ 33